สื่อสารองค์กร

เมื่อวันที่ 24-25 เมษายน 2568 พันเอก ดร. ศรัณยู วิริยเวชกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) เป็นผู้แทน สพพ. เข้าร่วมงานสัมมนา “Sustainable Infrastructure Programme in Asia (SIPA) Policy Dialogue on Sustainable and Resilient Freight Connectivity in Southeast Asia” จัดโดย International Transport Forum (ITF) และ Ministry of National Development Planning of Indonesia ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ในห้วงการสัมมนาดังกล่าว พันเอก ดร. ศรัณยูฯ ได้รับเกียรติให้เป็นผู้นำเสนอบริบท (Scene Setting Presentation) ก่อนเริ่มการประชุมหารือระดับสูงและการเผยแพร่ผลลัพธ์สุดท้าย (High-level dialogue and final results dissemination) ภายใต้หัวข้อ “From Planning to Action: Best Practice for Sustainable Infrastructure Funding and Project Implementation” โดยได้ระบุประเด็นสำคัญด้านการจัดลำดับความสำคัญเชิงนโยบาย และกระบวนทัศน์ใหม่ด้านการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมผ่านการบูรณาการความร่วมมืออย่างยั่งยืนและสร้างความยืดหยุ่นต่อระบบคมนาคมขนส่ง รวมถึงนำเสนอบทเรียนที่ได้รับ (Lessons learned) จากการดำเนินงานโครงการให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (Official Development Assistance: ODA) ของ สพพ. เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และข้อมูลด้านการพัฒนาที่สำคัญกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 พันเอก ดร. ศรัณยู วิริยเวชกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) และ H.E. Peng Ponea รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง (Ministry of Public Works and Transport: MPWT) ได้ร่วมลงนาม Record of Discussion ความร่วมมือทางวิชาการของ สพพ. สำหรับงานออกแบบรายละเอียดโครงการปรับปรุงถนนหมายเลข 57 (บ้านผักกาด - บ้านปรม จังหวัดไพลิน - ถนนหมายเลข 5 จังหวัดพระตะบอง) ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรไทย และ Samdech Moha Borvor Thipadei HUN Manet นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชาเป็นสักขีพยาน ณ Peace Palace กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา

เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 นายพีรเมศร์ วุฒิธรเนติรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) พร้อมด้วยคณะผู้แทนจาก สพพ. เข้าร่วมการประชุมประจำปีระหว่าง สพพ. และองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency: JICA) (NEDA-JICA Annual Meeting) ครั้งที่ 6 ณ JICA สำนักงานใหญ่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี และในปีนี้ JICA เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมที่กล่าว นำโดย Mr. HAYAKAWA Yuho, Director General, Southeast Asia and Pacific Department สำหรับการประชุมในปีนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมหารือเกี่ยวกับทิศทางการดำเนินนโยบายด้านการพัฒนา การแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนาของทั้งสองหน่วยงานในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Mekong Sub-region) การหารือเกี่ยวกับแนวทางเพื่อริเริ่มการบูรณาการการดำเนินงานสำหรับโครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาในภูฏาน และติมอร์-เลสเตในอนาคต รวมถึงความร่วมมือระหว่างกันในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เกี่ยวกับแนวทางการดำเนินนโยบายเพื่อความยั่งยืนของ JICA ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทางสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนอกเหนือไปจากการพัฒนาทางเศรษฐกิจเพียงมิติเดียว

คณะกรรมการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (คพพ.) นำโดย ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ประธานคณะกรรมการ ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายศรัณย์ เจริญสุวรรณ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส โดย คพพ. ได้สรุปผลการศึกษาดูงาน ณ สำนักงานใหญ่ของบริษัท Compagnie Nationale du Rhône (CNR) สำนักงานเพื่อการพัฒนาแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส (Agence Française de Développement : AFD) และองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (The Organisation for Economic Cooperation and Development: OECD) และหารือแนวทางการประสานงานความร่วมมือในอนาคต โดยประเด็นสำคัญ คือ ทิศทางการพัฒนาของ สพพ. ที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนโครงการด้านพลังงานทดแทน และการรองรับและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แนวทางความร่วมมือด้านการพัฒนากับ AFD รวมทั้งการขับเคลื่อนการเข้าร่วมเป็นสมาชิก OECD ของประเทศไทย ในมิติด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (Official Development Assistance : ODA)

คณะกรรมการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (คพพ.) นำโดย ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ประธานกรรมการ ได้เข้าร่วมการประชุม ณ องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ณ OECD Chateau กรุงปารีส เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 เพื่อเสริมสร้างการปฏิบัติงานด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ในการประชุมครั้งนี้ ผู้แทน OECD ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกในหลากหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย อาทิ ความร่วมมือในปัจจุบันระหว่าง OECD และไทย ความก้าวหน้าและขั้นตอนการเข้าเป็นสมาชิก OECD ของประเทศไทย รวมถึงแนวทางการจัดการและรายงานข้อมูลความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (ODA) โดยมีผู้เชี่ยวชาญจาก OECD Southeast Asia Division, Global Relations and Cooperation Directorate (GRC) และ OECD Directorate for Legal Affairs ร่วมให้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และช่วงท้ายของการประชุม คพพ. ได้ร่วมหารือกับ Mr. Carsten Staur , the Chair of OECD Development Assistance Committee (DAC) ของ OECD เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนาในรูปแบบความร่วมมือใต้-ใต้ (South-South Cooperation) การเยือน OECD ครั้งนี้ประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง โดย คพพ. ได้รับความรู้และความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับบทบาทของ OECD กระบวนการเข้าเป็นสมาชิก รวมถึงแนวทางการดำเนินงานด้าน ODA ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการดำเนินงานของ สพพ. ในอนาคต การประชุมดังกล่าว ถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและองค์การระหว่างประเทศชั้นนำ เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Goal 17: Partnerships for the Goals รวมถึงการดำเนินงานความร่วมมือแบบ South-South Cooperation

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายพีรเมศร์ วุฒิธรเนติรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) หรือ สพพ. ได้เข้าร่วมหารือทวิภาคีกับ Mr. Phouvong Kittavong รองรัฐมนตรีกระทรวงการเงิน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ณ โรงแรมเลอธาตุหลวง นครหลวงเวียงจันทน์ การหารือครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างไทย และสปป.ลาว เนื่องในโอกาสครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สปป.ลาว รวมถึงเป็นเวทีสำหรับหารือแนวทางพัฒนาโครงการสำคัญระหว่างสองประเทศ เช่น การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน การเงินการคลัง และการค้าระหว่างประเทศเพื่อส่งเสริมการรับรู้เกี่ยวกับโครงการพัฒนาระหว่างประเทศ และกระชับความสัมพันธ์ผ่านเครือข่ายสื่อมวลชนภายใต้กิจกรรมคาราวานสื่อมวลชนสัญจรไทย-สปป.ลาว ที่จัดขึ้นโดย สพพ. ในการหารือทวิภาคีครั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังได้หารือในประเด็นเกี่ยวกับโครงการพัฒนาและการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจ การเงินการคลัง และการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งไทยกำลังอยู่ระหว่างการจัดทำพระราชบัญญัติศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน (Fin Hub) และการพัฒนาระบบ Cross-border QR Payment โดยเชื่อมโยง National ITMX (NITMX) ของไทย และ Lao National Payment Network (LAPNet) ของสปป.ลาว เพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระเงินข้ามพรมแดน ซึ่งฝ่ายไทยพร้อมให้การสนับสนุนด้านการพัฒนาศักยภาพระบบการเงินของ สปป.ลาว ผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้และความร่วมมือทางเทคนิคต่าง ๆ สำหรับความร่วมมือด้านการค้าระหว่างประเทศ ได้มีแนวทางร่วมกันในการส่งเสริมการค้าสินค้าอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรม รถกระบะ เนื่องจากมีความต้องการยานพาหนะประเภทนี้เพิ่มขึ้นใน สปป.ลาว แนวทางนี้จะช่วย ลดอุปสรรคทางการค้า และ เพิ่มการอำนวยความสะดวกด้านศุลกากร เพื่อส่งเสริมให้การค้าชายแดนดำเนินไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ นายพีรเมศร์ วุฒิธรเนติรักษ์ ผู้อำนวยการ สพพ. ได้รายงานถึงความก้าวหน้าของโครงการความร่วมมือระหว่าง สปป.ลาว และ ไทย ในปัจจุบัน รวมถึงแผนการขยายความร่วมมือในอนาคต ซึ่งครอบคลุมในด้านโครงสร้างพื้นฐาน การเงิน พลังงาน และการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม อาทิ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสะอาด (Go Green) เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในภูมิภาค การเสริมสร้างความร่วมมือด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีทางการเงิน การขยายโครงการฝึกอบรมและพัฒนาศักยภาพบุคลากรของ สปป.ลาว ซึ่งจะช่วยให้ไทยและ สปป.ลาว สามารถพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน สร้างโอกาสใหม่ ๆ ทางการค้า และเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) กระทรวงการคลัง หรือ สพพ. จัดงานเสวนาในหัวข้อ “ความสัมพันธ์และความสำเร็จของโครงการความร่วมมือไทยกับ สปป.ลาว” ณ โรงแรมเลอธาตุหลวง นครหลวงเวียงจันทน์ โดยได้รับเกียรติจาก นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังมากล่าวปาฐกถาพิเศษ บทบาทของ สพพ. ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงไทย-สปป.ลาว โดยให้ความสำคัญของความร่วมมือระหว่างสองประเทศในการส่งเสริมเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว รวมถึงบทบาทของไทยในการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเสริมสร้างการเชื่อมโยงในภูมิภาค และต่อมาได้มีการเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - สปป.ลาว ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องจนครบรอบ 75 ปี พร้อมเน้นบทบาทของโครงสร้างพื้นฐานในการขับเคลื่อนความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น ดำเนินรายการโดยนายชิบ จิตนิยม รองประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศ งานเสวนาครั้งนี้เปิดโอกาสให้คณะสื่อมวลชนจากประเทศไทย ได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และความสัมพันธ์อันดี รวมถึงการบูรณาการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของทั้งสองประเทศต่อไป รวมถึงได้มีการซักถามข้อมูลเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว ตลอดจนการลงทุนและความร่วมมืออื่น ๆ ระหว่างประเทศไทยและ สปป.ลาว

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 ขบวนคาราวานสื่อมวลชนสัญจรไทย-สปป.ลาว ได้เดินทางมาถึงโรงแรมเลอธาตุหลวง นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของเส้นทางขบวนคาราวาน โดยได้รับเกียรติจาก นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายพีรเมศร์ วุฒิธรเนติรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) โบกธงตราหมากรุกเข้าเส้นชัยของคาราวานสื่อมวลชนในพิธีปิด การจัดคาราวานสื่อมวลชนในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญของความร่วมมือระหว่างไทยและ สปป.ลาว ในการสำรวจเส้นทาง โลจิสติกส์ การค้า และการท่องเที่ยว จาก ด่านภูดู่ จังหวัดอุตรดิตถ์ ผ่าน ถนนหมายเลข R11 - เมืองสังข์ทอง - นครหลวงเวียงจันทน์ เส้นทางดังกล่าวเป็นโครงข่ายคมนาคมที่สำคัญ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพด้านการขนส่งสินค้าและการเดินทางระหว่างสองประเทศ พร้อมทั้ง สนับสนุนการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติ อันจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นและส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทยและสปป.ลาว

เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2568 นายพีรเมศร์ วุฒิธรเนติรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) พร้อมด้วย นายพชรเสฏฐ์ บุญศิริสาริศา รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดขบวนคาราวานสื่อมวลชนสัญจรไทย - สปป.ลาว ณ โรงแรมสีหราช จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อให้คณะสื่อมวลชนจากประเทศไทยเดินทางสำรวจเส้นทางเศรษฐกิจ และโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงระหว่างสองประเทศ โดยใช้เส้นทาง กรุงเทพฯ -พิษณุโลก - ด่านภูดู่ จังหวัดอุตรดิตถ์ - ถนนหมายเลข R11 - นครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อเยี่ยมชมพื้นที่โครงการก่อสร้างถนนหมายเลข 11 (R11) ช่วงครกข้าวดอ - บ้านโนนสะหวัน -สานะคาม - บ้านวัง - บ้านน้ำสัง สปป.ลาว รวมระยะทางประมาณ 230 กิโลเมตร โดยเส้นทางดังกล่าวเป็นโครงข่ายสำคัญที่เชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจเชียงใหม่ - เวียงจันทน์ (Chiang Mai -Vientiane Economic Corridor: CVEC) รวมระยะทางประมาณ 629 กิโลเมตร ซึ่งได้รับการออกแบบให้เป็นเส้นทางคมนาคมและขนส่งที่มีมาตรฐานสูง ช่วยลดระยะเวลาเดินทางได้ถึง 3-4 ชั่วโมง ทำให้การเดินทางสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยยิ่งขึ้น ทั้งยังส่งเสริมศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและโลจิสติกส์ข้ามพรมแดน เพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ และกระตุ้นการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและ สปป.ลาวในอนาคต

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 นายพีรเมศร์ วุฒิธรเนติรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) ได้รับเชิญให้เป็นผู้ร่วมอภิปราย (Panelist) ในงานสัมมนา “Japan’s ODA: the Past, Present, and Future with Thailand” in “Japan’s ODA -70th Anniversary Seminar “Creating Tomorrow Together” ซึ่งจัดขึ้นโดยองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency : JICA) ณ โรงแรม The Westin Grande Sukhumvit Bangkok โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแบ่งปันความสำเร็จและหารือเกี่ยวกับความท้าทายสำหรับการดำเนินงานด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนาของ JICA ในประเทศไทย การเข้าร่วมครั้งนี้ ผอ.สพพ. ได้นำเสนอประเด็นเกี่ยวกับความประทับใจต่อความร่วมมือร่วมกับ JICA ภายใต้กรอบความร่วมมือแบบหุ้นส่วนระหว่างกัน (Japan Thailand Partnership Program ระยะที่ 3 (JTPP3) โดยยกตัวอย่างความสำเร็จของโครงการพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรสตึงบทและถนนเชื่อมโยงไปยังถนนหมายเลข 5 กัมพูชา และได้ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือระหว่าง NEDA และ JICA ในระยะ 10 ปีข้างหน้า โดยเน้นย้ำถึงความร่วมมือด้าน FA และ TA ที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างอย่างยืน (Sustainable Development) และการพัฒนาสีเขียว (Green Development) งานสัมมนาครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมจากหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็นกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ (Thailand International Cooperation Agency : TICA) สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (Public Debt Management Office: PDMO) หุ้นส่วนความร่วมมือเพื่อการพัฒนาต่างๆ (Development Partners: DPs) และผู้เชี่ยวชาญจากแวดวงการศึกษาซึ่งมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่มีคุณค่าและมุ่งสู่ความสำเร็จร่วมกันในด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (Official Development Assistance: ODA)