สื่อสารองค์กร

เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2568 นางสาวหทัยทัต มหาสุคนธ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารโครงการ 2 (สบค. 2) เป็นผู้แทนสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) ร่วมนำเสนอข้อมูลการดำเนินงานของ สพพ. สำหรับโครงการพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรสตึงบทและถนนเชื่อมโยงไปยังถนนหมายเลข 5 ราชอาณาจักรกัมพูชา (โครงการด่านสตึงบทฯ) ต่อนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในห้วงการเดินทางตรวจราชการของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ณ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โครงการด่านสตึงบทฯ เป็นโครงการความร่วมมือทางการเงิน (Financial Assistance: FA) ระหว่าง สพพ. และกัมพูชา ซึ่งได้ดำเนินโครงการระยะที่ 1 แล้วเสร็จเมื่อเดือนสิงหาคม 2566 โดยมีเป้าหมายเพื่อรองรับปริมาณการขนส่งสินค้าเข้า-ออกที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงลดระยะเวลาทางศุลกากรของฝ่ายกัมพูชา จาก 1-2 ชั่วโมง เหลือเพียง 10-15 นาที อันเป็นการเพิ่มศักยภาพการขนส่งสินค้าข้ามแดนระหว่างไทยและกัมพูชา นอกจากนี้ สพพ. อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมดำเนินโครงการสตึงบทฯ ระยะที่ 2 เพื่อก่อสร้างด่านควบคุมโรค คลังสินค้า Sanitation Area สถานที่จัดเก็บอุปกรณ์บำรุงรักษาสะพาน รวมทั้งเตรียมการเชื่อมโยงการขนถ่ายสินค้าเข้าสู่ระบบขนส่งทางราง

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 พันเอก ดร. ศรัณยู วิริยเวชกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) ได้รับเชิญเป็นวิทยากรในงานเสวนาวิชาการ เนื่องในโอกาสครบรอบ 150 ปี กระทรวงการต่างประเทศ งานเสวนาครั้งนี้จัดโดยกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ (TICA) ณ ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ ภายใต้หัวข้อ “บทบาทความร่วมมือเพื่อการพัฒนาของไทยต่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 17 - หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา (Partnerships for the Goals)” รองผู้อำนวยการ สพพ. ได้นำเสนอถึงบทบาทและภารกิจของ สพพ. ในการดำเนินงานด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนา โดยเฉพาะในมิติของความร่วมมือทางการเงิน (Financial Cooperation) ผ่านกลไกเงินกู้เงื่อนไขผ่อนปรน (Concessional Loan) เพื่อสนับสนุนประเทศในภูมิภาคเอเชียให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) เป้าหมายที่ 17 นอกจากนี้ รองผู้อำนวยการ สพพ. ยังได้เน้นย้ำถึงความสำเร็จ ความท้าทาย โอกาส และทิศทางการดำเนินงานในอนาคต พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาคีด้านการพัฒนา ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อให้การดำเนินงานด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนาของไทยสามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกันได้อย่างแท้จริงในอนาคต

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 นายพีรเมศร์ วุฒิธรเนติรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) พร้อมด้วยนายกีรติ เวฬุวัน รองผู้อำนวยการ สพพ. และคณะ ได้เข้าร่วมประชุมเริ่มงานก่อสร้าง (Kick-off Meeting) โครงการปรับปรุงเส้นทางหมายเลข 12 (R12) ช่วงท่าแขก–จุดผ่านแดนนาเพ้า สปป.ลาว โดยมีนายวันทอง บุดตะนะวง อธิบดีกรมขัวทาง และคณะเข้าร่วมประชุม พร้อมด้วยที่ปรึกษา และผู้ประกอบการงานก่อสร้าง เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการดำเนินงาน และการเริ่มงานก่อสร้าง ตลอดจนแนวทางขั้นตอนการดำเนินงานภายใต้โครงการความร่วมมือของ สพพ. ณ กรมขัวทาง กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว โดยการปรับปรุงเส้นทางหมายเลข 12 ใน สปป.ลาว จากเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สิ้นสุดบริเวณจุดผ่านแดนสากลนาเพ้า สปป.ลาว ระยะทางประมาณ 147 กิโลเมตร สนับสนุนนโยบายการเชื่อมโยงโครงข่ายเส้นทางของ GMS ระหว่างไทย สปป.ลาว เวียดนาม และจีน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สร้างเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย สปป.ลาว เวียดนาม และจีน ตลอดจนก่อให้เกิดประโยชน์ทางตรงต่อประชาชนในพื้นที่ ที่จะขนส่งสินค้าและเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวก ในการดำรงชีวิตได้รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น และประโยชน์ทางอ้อมในการประกอบอาชีพจากการค้า การลงทนและการท่องเที่ยว ซึ่งส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น และประหยัดระยะเวลาในการเดินทางและการขนส่งสินค้าระหว่างกัน

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) นำโดย นายระพิพิษณ์ พรหมนารท ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน ได้นำผู้แทนจาก Ministry of Economy and Finance (MEF) และ Ministry of Mines and Energy (MME) ราชอาณาจักรกัมพูชา เข้าชมโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริด (Hydro-floating Solar Hybrid) ณ เขื่อนสิรินธร อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาดูงาน หลักสูตร “Renewable Energy Development in Thailand” การศึกษาดูงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเรียนรู้การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ในรูปแบบโซลาร์เซลล์ลอยน้ำ (Floating Solar Farm) และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ (Hydro Power Plant) ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ทั้งจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานน้ำร่วมกัน รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นด้านการบริหารจัดการการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานสะอาดของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาพลังงานทดแทนของกัมพูชาในอนาคต โดยมีนายอาทิตย์ พรคุณา หัวหน้ากองโรงไฟฟ้าเขื่อนสิรินธร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับคณะผู้แทนและดำเนินกิจกรรมดังกล่าว

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) นำโดย นายระพิพิษณ์ พรหมนารท ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน ได้นำผู้แทนจาก Ministry of Economy and Finance (MEF) และ Ministry of Mines and Energy (MME) ราชอาณาจักรกัมพูชา เข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ (Biogas Power Plant) ณ อำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาดูงาน หลักสูตร “Renewable Energy Development in Thailand” การศึกษาดูงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเรียนรู้การบริหารจัดการโรงไฟฟ้ารูปแบบพลังงานทดแทน (Renewable Energy) แบบมีส่วนร่วมกับชุมชนผ่านการสร้างงานให้แก่ชุมชนโดยวิธีการรับซื้อพืชพลังงาน และเรียนรู้กระบวนการนำเข้าการผลิต รวมถึงการควบคุมการผลิตไฟฟ้าจากพืชพลังงาน โดยมีนายชัยยศ ชุณห์วิจิตรา Chief Asset Management Officer บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) (UAC Global) ให้เกียรติต้อนรับคณะผู้แทนและดำเนินกิจกรรมดังกล่าว

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) ได้นำผู้แทนจาก Ministry of Economy and Finance (MEF) และ Ministry of Mines and Energy (MME) ราชอาณาจักรกัมพูชา (กัมพูชา) เข้ารับฟังการบรรยายสรุป เรื่อง การเสริมสร้างความมั่งคงทางพลังงานทดแทน และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานทดแทนระดับประเทศ โดยมีผู้แทนจากกองนโยบายไฟฟ้า สำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ให้การต้อนรับและดำเนินกิจกรรม ณ สำนักนโยบายและแผนพลังงาน กรุงเทพมหานคร การศึกษาดูงานดังกล่าวกำหนดจัดระหว่างวันที่ 19-23 พฤษภาคม 2568 ณ กรุงเทพมหานคร – จังหวัดขอนแก่น – อุบลราชธานี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการพัฒนาพลังงานทดแทนตั้งแต่ระดับการกำหนดนโยบายและการจัดทำแผนงานไปจนถึงแนวทางการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานให้แก่รัฐบาลกัมพูชาผ่านการเรียนรู้แนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) และการถ่ายทอดความรู้ (Knowledge Transfer) จากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนของประเทศไทย

สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) ได้จัดงานแถลงข่าวเนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปีแห่งการสถาปนา สพพ. “สองทศวรรษแห่งความร่วมมือ สู่อนาคตที่ยั่งยืน” นำโดยนายพีรเมศร์ วุฒิธรเนติรักษ์ ผู้อำนวยการ พร้อมด้วยรองผู้อำนวยการ (พันเอก ศรัณยู วิริยเวชกุล และนายกีรติ เวฬุวัน) ซึ่งผู้อำนวยการ สพพ. ได้กล่าวเปิดงานแถลงข่าว โดยเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของ สพพ. ในการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านแนวคิด “พลังร่วม (Synergy)” และการยกระดับความร่วมมือในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (Greater Mekong Subregion: GMS) ซึ่งตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา สพพ. ได้ให้โครงการความร่วมมือทางการเงินและทางวิชาการ จำนวน 55 โครงการ รวม 24,189.43 ล้านบาท และโครงการด้านความร่วมมือในการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับประเทศเพื่อนบ้าน (Capacity Building) จำนวน 48 โครงการ รวม 36.90 ล้านบาท และกำลังก้าวสู่ทิศทางใหม่ที่เน้นการสร้างมูลค่าข้ามพรมแดน (Cross-Border Value Creation) ภายใต้ยุทธศาสตร์ 20 ปี ของ สพพ. พร้อมกันนี้ ยังได้แสดงศักยภาพโครงการสำคัญในประเทศเพื่อนบ้าน แบ่งออกเป็น 4 ประเทศเป้าหมายหลัก ได้แก่ ประเทศกัมพูชา: มีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ (On-going Projects) ได้แก่ โครงการปรับปรุงถนนสาย NR67 และ NR68 รวมถึงโครงการใหม่ (New Projects) ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา เช่น โครงการพัฒนาด่านสตึงบทแห่งที่ 2, โครงการปรับปรุงถนนสาย NR57 และโครงการ Livable, Resilient and Water Secure Cities Investment Program (Tranche 2) ทั้งนี้ ภายใน สปป.ลาว ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เช่น โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ 5 และโครงการปรับปรุงทางหลวงสาย R12 พร้อมด้วยโครงการใหม่ ได้แก่ โครงการก่อสร้างสะพานเชียงแมน-หลวงพระบาง และโครงการพัฒนาระบบประปาแห่งที่ 2 สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินงานในประเทศเมียนมาและติมอร์-เลสเต เช่น โครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าในนครย่างกุ้ง เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน และโครงการปรับปรุงศูนย์อนามัยแม่และเด็ก BEmONC โดยความร่วมมือกับกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) เพื่อยกระดับการเข้าถึงบริการสุขภาพพื้นฐานของประชาชน สุดท้ายนี้ ผู้อำนวยการ (นายพีรเมศร์ฯ) ยังได้ฝากถึงแนวทางความร่วมมือทางการเงินในอนาคต สำหรับการระดมทุนด้วยพันธบัตรเพื่อสังคม (Social Bond) ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2568 เพื่อใช้เป็นแหล่งเงินทุนในการสนับสนุนโครงการที่มุ่งเน้นการสร้างประโยชน์ทางสังคม รวมถึงความร่วมมือทางการเงินผ่านสกุลเงินหลัก (Major Currency) เช่น สกุลเงิน USD และ EURO เพื่อรองรับการดำเนินโครงการในประเทศที่ไม่มีพรมแดนติดกับประเทศไทย (non-bordering countries), การวางกรอบ Climate Resilient Projects และการผลักดันการร่วมลงทุนกับภาคเอกชน Public-Private Partnership (PPP) และ Blended Finance เพื่อให้สอดคล้องกับความพร้อมของแต่ละโครงการในปัจจุบัน และดึงดูดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการของรัฐมากขึ้น ณ ร้านอาหารพริกหยวก ถนนประดิพัทธ์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 นายพีรเมศร์ วุฒิธรเนติรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) และคณะผู้แทน เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเชีย ครั้งที่ 58 โดยการประชุมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Sharing Experience, Building Tomorrow” ณ Allianz Milan Convention Center กรุงมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 นายกีรติ เวฬุวัน รองผู้อำนวยการ สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน ) (สพพ.) และคณะผู้แทน ร่วมหารือทวิภาคีกับ Ms. Stefania Dina, Country Director, ADB Timor - Leste Resident Mission (TLRM) โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันในประเด็นด้านในประเด็นด้านสถานการณ์เศรษฐกิจของติมอร์ - เลสเต รวมถึงความเป็นไปได้ในการร่วมมือระหว่าง สพพ. และ ADB ในการดำเนินงานด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนา โดยเฉพาะด้าน Capacity Building ที่ช่วยพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ติมอร์ - เลสเต นอกจากนี้ สพพ. ได้แจ้งความก้าวหน้าในการดำเนินงานโครงการ The Renovation of the Community Maternal and Child Health Center Project ในห้วงการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเชีย ครั้งที่ 58 ฯ ณ Allianz Milan Convention Center กรุงมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2568 นายพีรเมศร์ วุฒิธรเนติรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน ) (สพพ.) พร้อมด้วยนายกีรติ เวฬุวัน รองผู้อำนวยการ เข้าร่วมคณะผู้แทนไทย นำโดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในการหารือทวิภาคีกับ Mr.Scott Morris รองประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย ในห้วงการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเชีย ครั้งที่ 58 ณ Allianz Milan Convention Center กรุงมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี

นายพีรเมศร์ วุฒิธรเนติรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) พร้อมคณะผู้บริหาร เข้าร่วมพิธีเปิดงาน “MOF Journey 150 ปี เส้นทางการคลังไทย” เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงการคลังครบ 150 ปี ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1–3 พฤษภาคม 2568 ณ Hall 3-4 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ งานนี้ได้รับเกียรติจากนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิด และกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “Global Transition: เศรษฐกิจไทยภายใต้จุดเปลี่ยน” โดยภายในงานผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลังได้เยี่ยมชมบูธนิทรรศการของ สพพ. และหน่วยงานในสังกัด พร้อมร่วมกิจกรรมหลากหลายที่จัดขึ้นตลอดงาน

เมื่อวันที่ 24-25 เมษายน 2568 พันเอก ดร. ศรัณยู วิริยเวชกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) เป็นผู้แทน สพพ. เข้าร่วมงานสัมมนา “Sustainable Infrastructure Programme in Asia (SIPA) Policy Dialogue on Sustainable and Resilient Freight Connectivity in Southeast Asia” จัดโดย International Transport Forum (ITF) และ Ministry of National Development Planning of Indonesia ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ในห้วงการสัมมนาดังกล่าว พันเอก ดร. ศรัณยูฯ ได้รับเกียรติให้เป็นผู้นำเสนอบริบท (Scene Setting Presentation) ก่อนเริ่มการประชุมหารือระดับสูงและการเผยแพร่ผลลัพธ์สุดท้าย (High-level dialogue and final results dissemination) ภายใต้หัวข้อ “From Planning to Action: Best Practice for Sustainable Infrastructure Funding and Project Implementation” โดยได้ระบุประเด็นสำคัญด้านการจัดลำดับความสำคัญเชิงนโยบาย และกระบวนทัศน์ใหม่ด้านการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมผ่านการบูรณาการความร่วมมืออย่างยั่งยืนและสร้างความยืดหยุ่นต่อระบบคมนาคมขนส่ง รวมถึงนำเสนอบทเรียนที่ได้รับ (Lessons learned) จากการดำเนินงานโครงการให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (Official Development Assistance: ODA) ของ สพพ. เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และข้อมูลด้านการพัฒนาที่สำคัญกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป