สื่อสารองค์กร

ถนน R11 กับการบูรณาการความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม CSER-R11
โดย: JETPACK -
  • 308 เข้าชม
  • 9 มิถุนายน 2566

          การดำเนินโครงการก่อสร้างและปรับปรุงถนนหมายเลข 11 ช่วงครกข้าวดอ-บ้านโนนสะหวัน-สานะคาม-บ้านวัง-บ้านน้ำสัง สปป.ลาว มีระยะทางประมาณ 124 กิโลเมตร แบ่งงานก่อสร้างออกเป็น 2 สัญญา ในวงเงิน 1,826 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานก่อสร้าง ที่เชื่อมโยงมาจากโครงการพัฒนาถนนหมายเลข 11 ช่วงบ้านตาดทอง-บ้านน้ำสัง และเมืองสังข์ทองและโครงการก่อสร้างถนนจากภูดู่ (อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์) ถึง เมืองปากลาย แขวงไชยะบุรี สปป.ลาว ที่ สพพ. เคยให้ความร่วมมือทางการเงินแก่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งแล้วเสร็จตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 และคาดว่าโครงการ R11 จะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2566 นี้

          อย่างไรก็ดี เมื่อดำเนินงานก่อสร้างแล้วเสร็จ จะส่งผลดีต่อการคมนาคม การท่องเที่ยว ภาพรวมทางเศรษฐกิจและสังคม ระหว่างสองประเทศ และอนุภูมิภาคให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้การเดินทางของประชาชน และการขนส่งตามแนวระเบียงเศรษฐกิจเชียงใหม่-เวียงจันทน์ (Chiangmai-Vientiane Economic Corridor : CVEC) ให้มีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากขึ้น ทำให้ต้นทุนในการเดินทางและขนส่งระหว่างกันลดต่ำลง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมาก ต่อการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศให้เพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะการค้าชายแดน ณ ด่านภูดู่ จังหวัดอุตรดิตถ์ มายังเมืองปากลาย และเดินทางมาถึงนครหลวงเวียงจันทน์ เส้นทางหมายเลข 11 หากมองภาพใหญ่ในยุทธศาสตร์ Land Link ของ สปป.ลาว เส้นนี้ก็ถือเป็นเส้นทางที่มีบทบาทสำคัญอีกเส้นหนึ่ง และเป็นเส้นทางที่มีทัศนียภาพที่สวยงาม โดยมีช่วงหนึ่งที่เป็นทางเลียบลำน้ำโขง 
          
          ทั้งนี้ ในระหว่างการดำเนินงานก่อสร้างอยู่นี้ สพพ. ได้กำชับให้ผู้รับจ้างมีมาตรการป้องกันและลดผลกระทบที่เกิดขึ้นในระยะก่อสร้าง เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และเพื่อต่อยอดให้โครงการดังกล่าว เกิดประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม สพพ.จึงได้กำหนดให้มีการดำเนินโครงการความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม Corporate Social and Environmental Responsibility : CSER) ในพื้นที่โครงการ โดยพบว่าประชาชนบริเวณพื้นที่โครงการ R11 ในชุมชน 4 หมู่บ้าน (บ้านโนนสะหวัน บ้านโพนสว่าง บ้านนาสัก และบ้านดงข่า) ซึ่งมีประมาณ 1,000 ครัวเรือน หรือ จำนวนประชากรกว่า 6,000 คน ซึ่งเป็นผู้ใช้รถ ใช้ถนนโดยตรง มีความยากลำบากในการเข้าถึงบริการสาธารณสุข กรณีเกิดการเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุทางท้องถนน ประชาชนใช้เวลาเดินทางอย่างยากลำบาก เนื่องจากในการก่อสร้างถนนบางส่วน ยังเป็นทางลูกรัง และไม่สามารถเดินทางได้ในฤดูฝน สำหรับการบริการด้านสาธารณสุข ส่วนใหญ่จะเดินทางเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลเมืองเวียงจันทน์ หรือในกรณีที่อาการหนัก บางส่วนจะไปรักษาที่โรงพยาบาลเชียงคาน จังหวัดเลย

         สพพ. จึงได้มีการบูรณาการความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม CSER-R11 ในการสนับสนุนงานก่อสร้าง “โรงหมอน้อยโนนสะหวัน” ซึ่งเป็นสุขศาลาอนามัยที่ตั้งอยู่บนพื้นที่โครงการพัฒนาถนนหมายเลข 11 ช่วงครกข้าวดอ-บ้านโนนสะหวัน-สานะคาม-บ้านวัง-บ้านน้ำสัง สปป.ลาว และเห็นว่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อประชาชน และเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของประชาชนในพื้นที่โครงการ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 50 ตารางกิโลเมตร ใน 4 หมู่บ้าน และเพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยอุปกรณ์ทางการแพทย์บางส่วนที่ สพพ. ให้การสนับสนุนครั้งนี้ เป็นสินค้านวัตกรรมไทยและสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย อาทิ รถเคลื่อนย้ายผู้ป่วย เตียงล้างแผลพร้อมชุดทำความสะอาด เตียงตรวจโรคและเตียงนอนผู้ป่วย เตียงเข็นผู้ป่วยฉุกเฉิน เสาแขวนน้ำเกลือ ชุดตรวจร่างกาย ชุดผ่าตัดทำคลอด หม้อต้มเครื่องมือแพทย์ เป็นต้น ซึ่งเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่าง สพพ. และกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ